หลักการง่าย ๆในการดูแลสีรถแก่เจ้าของรถไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าที่ผ่านการซ่อมสีมาแล้ว
ประการแรกเจ้าของรถควรจะรู้ก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายแก่สีรถประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
- ควัน และฝุ่นละอองที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม น้ำมันดินหรือยางมะตอยและอื่นๆซึ่งปฎิกิริยาเคมีจากสารเหล่านี้จะทำให้ผิวสีถูกทำลาย
- การสะสมเป็นเวลานานของฝุ่น ,ละอองน้ำมันต่าง ๆสารปนเปื้อนจากท่อไอเสียและมลภาวะต่าง ๆ ในอากาศซึ่งจะทำให้ผิวสีหมอง และซีด
- ขี้นก,น้ำเค็ม,ยางไม้และพวกรอยที่เกิดขึ้นจากแมลงจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเสียไป
วิธีการรักษาสีรถ
-ควรจอดรถในโรงเก็บรถเพื่อป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ต
-ควรล้างรถสัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดยปกติของการล้างรถไม่ควรอยู่ในบริเวณที่มีการจราจรคับคั่งหรือมีมลภาวะทางอากาศ
- ควร ใช้น้ำยาล้างรถมาตรฐาน และควรจะล้างด้วยมือ
หมายเหตุ น้ำยาล้างรถบางชนิดเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวสีเสีย ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของโรงงานผู้ผลิตรถยนต์
- ไม่ควร ใช้น้ำยาล้างรถที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ควรฉีดน้ำไล่จากบนลงมาล่างด้วยน้ำเย็นก่อนเพื่อเศษฝุ่นที่ฝังอยู่บนผิวสีจะได้ลอยตัว
-ไม่ควรขัดด้วยฟองน้ำในเที่ยวแรก
- ควรใช้ถังใส่น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างรถในอัตราส่วนที่ผู้ผลิตให้คำแนะนำ
- ไม่ควรใช้น้ำยาล้างรถเกินอัตราที่ทางผู้ผลิตแนะนำ
-ควรล้างรถแต่ละส่วนด้วยฟองน้ำที่นุ่ม โดยเริ่มต้นจากหลังคา ไล่ลงมาทางด้านข้างรวมถึงกระจกและรอยขอบต่าง ๆ
-ไม่ควร ปล่อยให้บริเวณที่ล้างแห้งควรจะล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนที่จะล้างในส่วนอื่นต่อไป
- ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทั้งคันอีกครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จแล้ว
- ควร ทำความสะอาดรอยเปื้อนหรือคราบออกจากสีผิวให้เร็วที่สุดที่สามารถทำได้
-ไม่ควร ปล่อยให้รอยเปื้อนหรือคราบอยู่บนผิวสีเป็นเวลานานจนเป็นรอยเปื้อนหรือคราบถาวร
สำหรับรอยเปื้อนหรือคราบที่ล้างออกยาก
ควรจะล้างตามวิธีการข้างต้นเสียก่อนถ้ายังคงล้างไม่ออกให้ปฎิบัติดังนี้ ให้ใช้ SIRICONE REMOVER ในการทำความสะอาดรอยเปื้อนนั้น
การขัดสี
ตามปกติเราจะไม่แนะนำให้มีการขัดสีเพื่อเพิ่มความเงา และสารใด หรือองค์ประกอบใด ๆ ที่เกี่ยวกับการขัดสีจะไม่ถูกแนะนำการขัดสีเป็นข้อแนะนำขั้นสุดท้าย เพราะว่าการขัดสีเป็นการลอกผิวสีชั้นบนสุดออกการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ถูกต้องและยาขัดสีโดยตรงจะทำให้รอยต่างๆ บนผิวสีลดลงและความเงาที่ดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีข้อแนะนำให้ใช้ทุกสามเดือนหรือขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของเจ้าของรถ